เปิดบัญชี
เปิดบัญชีล็อกอิน
เปิดบัญชี

16 เม.ย. 2025

หุ้น

Tesla เผชิญปัจจัยลบทั้งด้านภาษี ความตึงเครียดทางการค้า และปัญหาแบรนด์ ทำให้เสี่ยงปรับตัวลงต่อ

ภาพรวมตลาด

Tesla ยังคงเผชิญแรงกดดันอย่างหนักจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน โดยก่อนหน้านี้ บริษัทได้ถอดตัวเลือกการสั่งซื้อรถยนต์รุ่นนำเข้าอย่าง Model S และ Model X ออกจากเว็บไซต์ในประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังจากรัฐบาลจีนประกาศขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์จากสหรัฐฯ เป็น 125% ซึ่งอาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อยอดขายของ Tesla ในตลาดสำคัญแห่งนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้ว่าบริษัทจะยังสามารถผลิต Model 3 และ Model Y ในโรงงานเซี่ยงไฮ้ได้ตามปกติ แต่อย่างไรก็ตาม แรงกดดันจากแบรนด์รถยนต์ท้องถิ่นที่แข็งแกร่งขึ้น ประกอบกับความไม่แน่นอนของนโยบายภาครัฐ กำลังค่อย ๆ บั่นทอนความสามารถในการแข่งขันของ Tesla ในจีนอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ยอดขายของ Tesla ในจีนลดลงถึง 11% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และส่วนแบ่งตลาดระดับโลกของบริษัทก็ปรับตัวลดลงตามลำดับเช่นกัน

     ในฝั่งสหรัฐฯ สถานการณ์ก็ไม่ต่างกันมากนัก โดย Tesla ต้องรับมือกับการขึ้นภาษีนำเข้าชิ้นส่วนรถยนต์ในอัตรา 25% ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมนี้เป็นต้นไป ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตของบริษัทปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาว่า ชิ้นส่วนประมาณ 40–50% ของรถยนต์แต่ละคันยังคงต้องพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศ ความไม่แน่นอนทางนโยบายที่เปลี่ยนแปลงบ่อย รวมถึงแรงกดดันจากความพยายามให้บริษัทต่าง ๆ ย้ายฐานการผลิตกลับเข้าสู่สหรัฐฯ ได้สร้างภาระต้นทุนใหม่ ๆ ให้กับ Tesla อย่างต่อเนื่อง Dan Ives นักวิเคราะห์ชื่อดังจาก Wedbush ถึงกับระบุว่า Tesla กำลังเผชิญกับ “พายุสมบูรณ์แบบ” ทั้งในแง่ภาษี นโยบาย และภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่ได้รับผลกระทบจากพฤติกรรมและท่าทีของ Elon Musk เอง ซึ่งอาจทำให้บริษัทสูญเสียฐานลูกค้าถาวรไปแล้วถึง 10% ขณะเดียวกัน ยอดส่งมอบรถยนต์ในไตรมาสแรกก็ต่ำกว่าคาดการณ์ถึง 40,000 คัน ตอกย้ำภาพรวมที่ยังอยู่ภายใต้แรงกดดันหลายด้าน      

แม้จะยังมีนักวิเคราะห์บางรายที่ให้คำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น Tesla ด้วยมุมมองระยะยาวที่เชื่อมั่นในศักยภาพของเทคโนโลยีและโครงสร้างธุรกิจ แต่ในระยะสั้นกลับเต็มไปด้วยปัจจัยลบที่ไม่อาจมองข้าม โดยเฉพาะความเสี่ยงที่กำไรจากการดำเนินงานในปี 2025 อาจหดตัวลงถึง 3 พันล้านดอลลาร์ จากผลกระทบของต้นทุนภาษีที่เพิ่มขึ้นและความต้องการที่อ่อนแรงลงในหลายภูมิภาคทั่วโลก เนื่องจากราคาขายที่สูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นอกจากนี้ หาก Tesla ต้องการหลีกเลี่ยงภาระภาษีระยะยาว บริษัทอาจต้องลงทุนมหาศาลและใช้เวลาหลายปีในการย้ายห่วงโซ่อุปทานกลับเข้าสหรัฐฯ ซึ่งยิ่งสร้างแรงกดดันต่อโครงสร้างต้นทุนและความสามารถในการแข่งขันโดยรวม สัญญาณทั้งหมดที่ปรากฏจึงชี้ไปในทิศทางเดียวกันว่า ความไม่แน่นอนระดับมหภาคยังคงเป็นปัจจัยหลักที่ฉุดรั้งราคาหุ้นของ Tesla ในระยะข้างหน้า และนักลงทุนควรใช้ความระมัดระวังกับความเสี่ยงของการปรับตัวลงที่ยังไม่จบสิ้นในเร็ววัน
การวิเคราะห์ทางเทคนิค

TESLA

หุ้น Tesla (TSLA) ในกรอบเวลา 4 ชั่วโมง (H4) ยังคงเคลื่อนไหวในแนวโน้มขาลงอย่างต่อเนื่อง โดยตลอดช่วงที่ผ่านมา ราคายังไม่สามารถทะลุกรอบแนวต้านด้านบนของกรอบราคาสีแดงขึ้นไปได้ ซึ่งสะท้อนถึงแรงกดดันจากฝั่งผู้ขายที่ยังคงมีน้ำหนักอย่างชัดเจน อีกทั้งเส้นค่าเฉลี่ยในระยะต่าง ๆ ยังคงเรียงตัวในลักษณะที่กดราคาลงด้านล่าง ซึ่งเป็นลักษณะของตลาดที่ยังอยู่ในภาวะอ่อนแอ และทำให้โอกาสในการฟื้นตัวกลับขึ้นของราคายังมีจำกัดในระยะนี้ เมื่อพิจารณาจากตัวชี้วัดทางเทคนิคเพิ่มเติม จะเห็นว่า RSI ล่าสุดยังคงอยู่ต่ำกว่า 50 (ปัจจุบันอยู่ที่ราว 47) ซึ่งแสดงถึงแรงขายที่ยังมีความได้เปรียบ ขณะที่ MACD ก็ยังคงเคลื่อนไหวในลักษณะขาลง โดยเส้น MACD ยังคงอยู่ต่ำกว่าเส้น Signal line อย่างชัดเจน พร้อมกับแท่งฮิสโตแกรมที่ยังอยู่ในแดนลบ สะท้อนว่าโมเมนตัมเชิงลบยังไม่หมดไป และมีแนวโน้มที่จะกดดันราคาต่อในช่วงสั้นถึงกลาง อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรจับตาการเคลื่อนไหวของราคาบริเวณกรอบสีแดงนี้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากหากราคาสามารถทะลุแนวต้านบริเวณด้านบนของกรอบขึ้นไปได้ ก็อาจเป็นสัญญาณที่ช่วยสนับสนุนโมเมนตัมเชิงบวกกลับคืนมา และอาจเปลี่ยนทิศทางระยะสั้นของราคาให้กลายเป็นแนวโน้มขาขึ้นได้อีกครั้ง ทั้งนี้ แนวรับสำคัญที่ควรเฝ้าระวังอยู่ที่บริเวณ 183.36 ดอลลาร์ ซึ่งเคยเป็นระดับที่ราคาพักตัวก่อนรีบาวด์ในอดีต ขณะที่แนวต้านหลักที่ควรจับตา หากราคาทะลุกรอบสีแดงขึ้นไปได้ คือบริเวณ 315.90 ดอลลาร์ ซึ่งจะเป็นด่านสำคัญในการยืนยันการเปลี่ยนแนวโน้มอย่างแท้จริง แต่หากไม่สามารถฝ่าระดับนี้ขึ้นไปได้ ก็มีโอกาสสูงที่ราคาจะยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบเดิม และเผชิญแรงกดดันต่อเนื่องจากฝั่งขายในช่วงถัดไป

TESLA, H41607.png

การซื้อขายสกุลเงินต่างประเทศโดยใช้มาร์จิ้นมีความเสี่ยงสูงและอาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน เนื่องจากการใช้เลเวอเรจที่สูงสามารถทำให้ทั้งกำไรและขาดทุนที่อาจได้รับเพิ่มขึ้นได้ ดังนั้น ก่อนที่จะเข้าสู่ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ การประเมินเป้าหมายการลงทุน ประสบการณ์ และความสามารถในการรับความเสี่ยงของตัวเองอย่างเหมาะสมถือเป็นสิ่งจำเป็น

แบ่งปันกับเพื่อน ๆ:
Witsawa Lattaponpakorn

ผู้เขียน: Witsawa Lattaponpakorn

เปิดบัญชี FBS

โดยการลงทะเบียน คุณได้ยอมรับเงื่อนไขของ ข้อตกลงลูกค้า FBS และ นโยบายความเป็นส่วนตัว FBS และยอมรับความเสี่ยงทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการซื้อขายในตลาดการเงินระดับโลก

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

โมเมนตัม AI–Subscription หนุนการฟื้นตัวของหุ้น CRM เปิดทางอัพไซด์ในระยะถัดไป

30 พ.ย. 2025

11:42

โมเมนตัม AI–Subscription หนุนการฟื้นตัวของหุ้น CRM เปิดทางอัพไซด์ในระยะถัดไป

หุ้น

EBITDA พุ่ง 33% ประกอบกับ FCF แตะระดับสูงสุดใหม่ ตอกย้ำศักยภาพขาขึ้นของ UBER อย่างต่อเนื่อง

30 พ.ย. 2025

11:12

EBITDA พุ่ง 33% ประกอบกับ FCF แตะระดับสูงสุดใหม่ ตอกย้ำศักยภาพขาขึ้นของ UBER อย่างต่อเนื่อง

หุ้น

โครงสร้างรายได้มั่นคง + RPO มหาศาล เสริมมุมมองเชิงบวกต่อราคาหุ้น Microsoft ในระยะกลาง–ยาว

30 พ.ย. 2025

10:08

โครงสร้างรายได้มั่นคง + RPO มหาศาล เสริมมุมมองเชิงบวกต่อราคาหุ้น Microsoft ในระยะกลาง–ยาว

หุ้น

ฐานผู้ใช้ระดับมหภาค + ผลตอบแทน AI ชัดเจน หนุน Meta กลับมาปรับตัวขึ้นต่อได้

30 พ.ย. 2025

09:33

ฐานผู้ใช้ระดับมหภาค + ผลตอบแทน AI ชัดเจน หนุน Meta กลับมาปรับตัวขึ้นต่อได้

หุ้น

FBS ณ สื่อสังคมออนไลน์

iconhover iconiconhover iconiconhover iconiconhover icon

ติดต่อเรา

iconhover iconiconhover iconiconhover iconiconhover icon
store iconstore icon
ดาวน์โหลดได้ที่
Google Play
store iconstore icon
ดาวน์โหลด MT4 บน
App Store
store iconstore icon
ดาวน์โหลด MT5 บน
App Store

การซื้อขาย

บริษัท

เกี่ยวกับ FBS

ผลกระทบต่อสังคมของเรา

เอกสารทางกฎหมาย

ข่าวเกี่ยวกับบริษัท

สโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ซิตี้

ศูนย์ช่วยเหลือ

โปรแกรมพันธมิตร