สวัสดี เทรดเดอร์ทั้งหลาย! บทความนี้จะให้แนวคิดเกี่ยวกับการวิเคราะห์กราฟเปล่า Forex ในฐานะเทรดเดอร์ที่เทรดมาอย่างยาวนาน ฉันมักจะเจอคำถามเกี่ยวกับวิธีการวิเคราะห์กราฟเปล่า และฉันคิดว่านี่เป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญที่ต้องให้ความสนใจ เนื่องจาก Forex ยังคงดึงดูดเทรดเดอร์รายใหม่ ๆ ได้อยู่ ซึ่งเหล่ามือใหม่ทั้งหลายอาจพบว่าเคล็ดลับต่อไปนี้มีประโยชน์
เรามาดูความซับซ้อนของการวิเคราะห์กราฟเปล่ากันเลยดีกว่า
เพราะอะไรฉันจึงใช้กราฟ “เปล่า” และวิธีตั้งค่า
หากคุณต้องการเชี่ยวชาญการซื้อขาย ให้เรียนรู้การวิเคราะห์กราฟเปล่า คุณจะมีเวลารวบรวมกราฟของคุณด้วยตัวบ่งชี้ เส้นแนวโน้ม ฯลฯ อยู่เสมอ อย่างไรก็ตาม ฉันขอบอกคุณเรื่องนี้จากประสบการณ์ของฉันเอง ยิ่งคุณเทรดมากเท่าไร คุณก็จะยิ่งตระหนักถึงความสำคัญของกราฟเปล่า ๆ ที่สะอาดตา และวิธีที่กราฟเหล่านั้นสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพของคุณได้มากขึ้น
ฉันใช้กราฟเปล่าเพื่อมุ่งเน้นไปที่พฤติกรรมของราคาและระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่สำคัญ ฉันสามารถเห็นแนวโน้มของตลาดและตัดสินใจซื้อขายได้ดีขึ้นโดยลบทุกสิ่งที่ไม่จำเป็นออกจากกราฟของฉัน
กราฟเปล่าที่สะอาดตาช่วยได้มากในการหลีกเลี่ยงการเกิดภาวะอัมพาตในการวิเคราะห์ ซึ่งเป็นสิ่งที่เทรดเดอร์ทุกคนต้องเผชิญเมื่อมีตัวบ่งชี้และเส้นมากเกินไป ซึ่งทำให้เกิดความสับสนและความไม่แน่ใจ มันไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุดในการเทรดเลย เชื่อฉันเถอะ
สำหรับการวิเคราะห์กราฟ Forex เปล่า ๆ ฉันจะใช้เฉพาะองค์ประกอบที่สำคัญ เช่น Moving Averages, ระดับ Fibonacci retracement และระดับแนวรับและแนวต้านที่สำคัญ นอกจากนั้นฉันยังใช้กราฟแท่งเทียนเพื่อแสดงการเคลื่อนไหวของราคาที่ชัดเจนอีกด้วย
จากนั้น ฉันก็ตั้งค่ากราฟด้วยโทนสีเรียบ ๆ ฉันชอบใช้เพียงไม่กี่สีเพื่อแยกความแตกต่างระหว่างองค์ประกอบต่าง ๆ พื้นหลังสีขาวที่มีแท่งเทียนสีเขียวและสีแดงใช้ได้ดีสำหรับฉัน ซึ่งแสดงให้เห็นการเคลื่อนไหวของราคาทั้งขาขึ้นและขาลง ความเรียบง่ายของโทนสีนี้ช่วยทำให้คุณมีสมาธิและลดสิ่งรบกวนสมาธิ
ฉันยังใช้เลย์เอาต์ที่ดูโล่งและเรียบง่ายสำหรับกราฟของฉันด้วย ฉันจัดองค์ประกอบต่าง ๆ ในลักษณะที่ดูแล้วเข้าใจง่ายและน่าอ่าน สิ่งนี้ช่วยให้ฉันวิเคราะห์แนวโน้มของตลาดและตัดสินใจเทรดอย่างมีข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว
สุดท้ายนี้ ฉันใช้กรอบเวลาที่หลาย ๆ กรอบเพื่อให้เข้าใจภาพรวมของตลาด ตัวเลือกทั่วไปของฉันประกอบด้วยกราฟรายวัน 4 ชั่วโมงและ 1 ชั่วโมงเพื่อระบุแนวโน้มระยะยาวและการเคลื่อนไหวของราคาในระยะสั้น
เพื่อสรุปส่วนนี้ ฉันอยากจะเน้นย้ำว่ากราฟเปล่าได้ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการเทรดของฉันอย่างมาก มันช่วยให้ฉันมีสมาธิและหลีกเลี่ยงสิ่งรบกวนสมาธิที่ไม่จำเป็น ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญประการหนึ่งในการบรรลุผลลัพธ์ที่ได้กำไร
วิธีการวิเคราะห์ด้วยกราฟราคาเปล่า
ตอนนี้เรามาดูสิ่งที่ฉันทำเมื่อวิเคราะห์กราฟราคากัน บางทีสิ่งที่ฉันทำบางส่วนอาจทำให้คุณได้แนวคิดดี ๆ ที่จะนำไปใช้กับการวิเคราะห์กราฟ Forex ของคุณ
อันดับแรกฉันโฟกัสไปที่แนวโน้มของตลาดโดยรวม ฉันมองหาแนวรับและแนวต้านที่สำคัญ ซึ่งมักจะระบุได้จากราคาสูงสุดและต่ำสุดก่อนหน้านี้ ระดับเหล่านี้ช่วยให้ฉันเข้าใจทิศทางที่เป็นไปได้ของตลาดและตัดสินใจเข้าซื้อขายได้อย่างรอบรู้
จากนั้น ฉันดูที่พฤติกรรมของราคา ฉันตั้งเป้าที่จะค้นหารูปแบบต่าง ๆ เช่น Head and Shoulders, Double tops หรือ Double bottoms และรูปแบบกราฟอื่น ๆ ที่สามารถส่งสัญญาณบอกได้ว่าแนวโน้มจะกลับตัวหรือดำเนินต่อไป สิ่งนี้ช่วยให้ฉันคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาที่เป็นไปได้และปรับกลยุทธ์การซื้อขายของฉันให้สอดคล้องกันตามนั้น
ฉันใช้ Moving Averages เพื่อระบุทิศทางทั่วไปของแนวโน้มและพื้นที่ที่เป็นไปได้ของแนวรับหรือแนวต้าน การตัดกันระหว่างเส้น Moving Averages ที่แตกต่างกันสามารถบ่งบอกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นในแนวโน้ม
สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งของการวิเคราะห์กราฟราคาเปล่า ๆ นี้คือการระบุระดับ Fibonacci retracement ที่สำคัญ ระดับเหล่านี้ช่วยให้ฉันระบุพื้นที่ที่เป็นไปได้ของแนวรับหรือแนวต้านตามลำดับ Fibonacci ซึ่งเป็นเครื่องมือมาตรฐานที่ใช้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิค
จงให้ความสนใจกับปริมาณการซื้อขายเพื่อรับข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าเกี่ยวกับความเชื่อมั่นของตลาดและการกลับตัวของแนวโน้มที่อาจเกิดขึ้น ปริมาณการซื้อขายที่สูงระหว่างที่ราคาเคลื่อนไหวสามารถบ่งบอกถึงการมีส่วนร่วมในตลาดที่แข็งแกร่ง ปริมาณการซื้อขายที่ต่ำอาจบ่งบอกถึงการขาดความสนใจในทิศทางนั้น ๆ
เมื่อคุณวิเคราะห์กราฟราคาที่ชัดเจน คุณจะก็จะมุ่งเน้นไปที่แนวโน้ม, ระดับแนวรับและแนวต้าน, รูปแบบกราฟ, Moving Averages, ระดับ Fibonacci retracement และปริมาณ หากคุณทำให้กราฟของคุณรกไปด้วยรายละเอียดที่ไม่จำเป็นมากมาย คุณก็มีแนวโน้มที่จะทำการตัดสินใจซื้อขายดี ๆ ได้ลำบาก ดังนั้น หากคุณกำลังมองหาการวิเคราะห์ตลาดที่แม่นยำ ให้วิเคราะห์จากกราฟเปล่า
ระบบเทรดตามพฤติกรรมของราคา
ระบบเทรดตามพฤติกรรมของราคา (Price Action Trading) เป็นระบบการซื้อขายที่ได้รับความนิยมและใช้กันอย่างแพร่หลาย ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การวิเคราะห์กราฟราคาเปล่า ๆ แนวทางนี้เน้นการใช้ความเคลื่อนไหวของราคาและรูปแบบในอดีตเพื่อคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาในอนาคต แทนที่จะอาศัยตัวบ่งชี้หรือเครื่องมือทางเทคนิคอื่น ๆ
การเทรดตามพฤติกรรมของราคานั้นเกี่ยวข้องกับการใช้การเคลื่อนไหวของราคาเป็นแหล่งข้อมูลเดียวที่คุณต้องการเพื่อตัดสินใจซื้อขาย เทรดเดอร์ที่เทรดตามพฤติกรรมของราคาจะมองหารูปแบบ แนวโน้ม ระดับแนวรับและแนวต้าน และจุดราคาสำคัญอื่น ๆ เพื่อระบุโอกาสในการซื้อขายที่อาจเกิดขึ้น
หลักการสำคัญประการหนึ่งของการเทรดตามพฤติกรรมของราคาคือ การเคลื่อนไหวของราคาในอดีตมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นซ้ำ ๆ และจากการศึกษารูปแบบเหล่านี้ เทรดเดอร์สามารถคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้ เทรดเดอร์ที่เทรดตามพฤติกรรมของราคามักใช้รูปแบบแท่งเทียน รูปแบบกราฟ และเส้นแนวโน้มเพื่อระบุจุดเข้าและออกที่เป็นไปได้ของการเทรด
หากต้องการที่จะรู้สึกมั่นใจในระหว่างการเทรดตามพฤติกรรมของราคา คุณต้องเข้าใจเกี่ยวกับจิตวิทยาและอารมณ์ของตลาด จงให้ความสนใจอย่างมากว่าราคาจะตอบสนองอย่างไรในระดับหนึ่ง ๆ เนื่องจากสิ่งนี้สามารถให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีค่าเกี่ยวกับความเชื่อมั่นของตลาดและการกลับตัวของแนวโน้มที่อาจเกิดขึ้นได้
การเทรดตามพฤติกรรมของราคานั้นเรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลโดยอาศัยการวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคาที่แม่นยำ หากคุณเรียนรู้ที่จะโฟกัสไปที่องค์ประกอบที่สำคัญที่สุดของตลาด คุณจะสามารถพัฒนาความเข้าใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้อย่างลึกซึ้งและตัดสินใจทำการเทรดที่ทำกำไรได้
Smart Money Concepts (SMC)
Smart Money Concepts (SMC) ในการซื้อขายหมายถึงแนวคิดที่ว่านักลงทุนสถาบันขนาดใหญ่ เช่น กองทุนป้องกันความเสี่ยง ธนาคาร และสถาบันการเงินอื่น ๆ สร้างผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการเคลื่อนไหวของตลาดการเงิน นักลงทุนสถาบันเหล่านี้มักถูกเรียกว่า "Smart Money" หรือ "ขาใหญ่ในการลงทุน" เพราะพวกเขาสามารถเข้าถึงทรัพยากรที่กว้างขวาง เทคโนโลยีขั้นสูง และการวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญที่ทำให้พวกเขาได้เปรียบในการแข่งขันในตลาด
เมื่อนำไปใช้กับการเทรดตามพฤติกรรมของราคา ขาใหญ่ในตลาดก็มีความสำคัญอย่างยิ่งในการระบุแนวโน้มของตลาดที่อาจเกิดขึ้น เพื่อคาดการณ์การเคลื่อนไหวของตลาดในอนาคต เทรดเดอร์ที่เทรดตามพฤติกรรมของราคามักจะมองหาสัญญาณของกิจกรรมทางการเงินของเหล่าขาใหญ่ในตลาด เช่น การซื้อขายในปริมาณมาก การเคลื่อนไหวของราคาขนาดใหญ่ และรูปแบบราคาที่ผิดปกติ
Smart Money Concepts เน้นให้เห็นถึงความสำคัญของการติดตามทิศทางของนักลงทุนสถาบัน เนื่องจากพวกเขามักจะมีอำนาจในการขับเคลื่อนตลาดไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง ในฐานะเทรดเดอร์ที่เทรดด้วยพฤติกรรมของราคา คุณจะได้รับข้อมูลเชิงลึกที่มีประโยชน์เกี่ยวกับความเชื่อมั่นของตลาดและการกลับตัวของแนวโน้มที่อาจเกิดขึ้นโดยการวิเคราะห์พฤติกรรมของเหล่าขาใหญ่ในตลาดเหล่านี้
สุดท้ายนี้ หากคุณเข้าใจเกี่ยวกับ Smart Money Concepts คุณก็จะมีโอกาสที่จะตกเป็นเหยื่อของการปั่นป่วนตลาดหรือการพุ่งทะลุที่ผิดพลาดน้อยลง เนื่องจากนักลงทุนสถาบันมักจะมีอิทธิพลต่อการเคลื่อนไหวของตลาดเพื่อรักษาผลประโยชน์ของตนเอง
ความคิดเห็นของฉันคือการผสมผสาน Smart Money Concepts เข้ากับการซื้อขายตามพฤติกรรมของราคาจะเป็นประโยชน์ต่อการเทรดของคุณ เนื่องจากคุณจะได้เรียนรู้ที่จะเข้าใจตลาดได้ดีขึ้น
ตัวบ่งชี้พฤติกรรมของราคา
ฉันรู้ว่าคุณกำลังคิดอะไรอยู่ คุณกำลังคิดว่าแล้วตัวบ่งชี้มันมาเกี่ยวอะไรกับแนวคิดการวิเคราะห์ราคากราฟเปล่าด้วยใช่ไหมล่ะ? ก็ถูกของคุณนะ แต่อย่างไรก็ตาม ฉันต้องขอเตือนคุณว่าอย่ายึดถือแนวคิดนี้ตามความหมายจริง ๆ จนเกินไป การวิเคราะห์กราฟเปล่ากำลังจะช่วยคุณกำจัดแนวทางที่ผิดพลาดในการจัดการกับกราฟ ก็นั่นแหละ มันไม่ได้หมายความว่าคุณไม่ต้องใช้เครื่องมือใด ๆ เพื่อช่วยคุณในการซื้อขายเลยสักหน่อย เครื่องมือเหล่านั้นฉันจะกล่าวถึงต่อไป
รูปแบบแท่งเทียน
รูปแบบแท่งเทียน เช่น Doji, รูปแบบ Engulfing และรูปแบบ Pin bars ช่วยระบุการกลับตัวของแนวโน้มที่เป็นไปได้ ความต่อเนื่องของรูปแบบ และความเชื่อมั่นของตลาด เทรดเดอร์ใช้รูปแบบเหล่านี้ในการตัดสินใจเกี่ยวกับการเข้าหรือออกจากการเทรด
ระดับแนวรับและแนวต้าน
ระดับแนวรับและแนวต้านเป็นตัวบ่งชี้พฤติกรรมของราคาที่สำคัญที่ช่วยให้เทรดเดอร์ระบุบริเวณที่ราคามีแนวโน้มที่จะกลับตัวหรือพักตัว ระดับเหล่านี้ขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหวของราคาในอดีต และสามารถใช้เพื่อกำหนดจุดเข้าและออกสำหรับการเทรด
เส้นแนวโน้ม
เส้นแนวโน้มจะถูกวาดบนกราฟเพื่อเชื่อมโยงความเคลื่อนไหวของราคาสูงสุดหรือต่ำสุด ช่วยให้เทรดเดอร์ระบุทิศทางของแนวโน้มได้ เส้นแนวโน้มยังสามารถทำหน้าที่เป็นแนวรับหรือแนวต้านแบบไดนามิกได้
รูปแบบพฤติกรรมของราคา
รูปแบบพฤติกรรมของราคา เช่น Head and Shoulders, Double Top, Double Bottoms และ Triangles ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของตลาดที่อาจเกิดขึ้นและสามารถนำมาใช้ในการตัดสินใจซื้อขายได้
Moving Averages
แม้ว่า Moving Averages จะเป็นตัวบ่งชี้ทางเทคนิคแบบดั้งเดิม แต่ก็สามารถถือเป็นตัวบ่งชี้พฤติกรรมของราคาได้เมื่อใช้ในการระบุแนวโน้มและระดับแนวรับหรือแนวต้านที่อาจเกิดขึ้น
ตัวบ่งชี้พฤติกรรมของราคาเป็นที่นิยมในเหล่าเทรดเดอร์ Forex เนื่องจากตัวบ่งชี้นี้ให้ภาพที่ชัดเจนของการเปลี่ยนแปลงของตลาด และสามารถใช้เพื่อตัดสินใจซื้อขายอย่างมีข้อมูลโดยอ้างอิงตามการเคลื่อนไหวของราคาในปัจจุบัน ด้วยการทำความเข้าใจและตีความตัวบ่งชี้พฤติกรรมของราคา เทรดเดอร์จะได้รับข้อมูลเชิงลึกที่มีประโยชน์เกี่ยวกับความเชื่อมั่นของตลาดและการเคลื่อนไหวของราคาในอนาคต
การเทรดตามพฤติกรรมของราคา & กลยุทธ์ SMC
ฉันคิดว่าถึงเวลาที่จะต้องวางกลยุทธ์กันแล้ว ฉันจะโฟกัสไปที่กลยุทธ์ที่คุณสามารถนำไปใช้กับการเทรดสองประเภทที่ได้กล่าวมาข้างต้น ได้แก่ พฤติกรรมของราคาและ Smart Money Concepts
กลยุทธ์การกลับตัวของ Pin bar
กลยุทธ์นี้ขึ้นอยู่กับการระบุรูปแบบแท่งเทียน Pin Bar ซึ่งเป็นแท่งเทียนที่มีไส้เทียนยาวและตัวแท่งเทียนที่เล็ก ก่อตัวที่ระดับแนวรับหรือแนวต้านที่สำคัญ เช่นเดียวกับเส้นแนวโน้มหรือหลังจากการเคลื่อนไหวที่แข็งแกร่งในตลาด
กลยุทธ์นี้จะต้องมองหา Pin Bar ที่เกิดขึ้นอย่างมีนัยสำคัญบนกราฟ จากนั้นรอการยืนยันการกลับตัวที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งการยืนยันการกลับตัวอาจมาในรูปแบบของการปฏิเสธราคาที่ระดับนั้น ๆ การปิดอย่างแข็งแกร่งเหนือ Pin Bar หรือปิดเหนือแท่งเทียนต่อมาเพื่อยืนยันการกลับตัว
เมื่อคุณสามารถระบุ Pin Bar ที่ถูกต้องและยืนยันการกลับตัวได้แล้ว คุณก็สามารถเข้าสู่การซื้อขายในทิศทางของการกลับตัวได้ วาง Stop Loss (จุดหยุดขาดทุน) ให้สูงกว่าจุดสูงสุดหรือต่ำสุดของ Pin Bar ขึ้นอยู่กับทิศทางของการเทรด
กลยุทธ์การกลับตัวของ Pin Bar เป็นที่นิยมในบรรดาเทรดเดอร์ฟอเร็กซ์ เนื่องจากมีกลยุทธ์การเข้าและออกที่ชัดเจนโดยอิงตามตัวบ่งชี้พฤติกรรมของราคา คุณสามารถใช้มันร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่น ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพได้ อย่างไรก็ตาม เช่นเดียวกันกับกลยุทธ์การซื้อขายอื่น ๆ คุณควรฝึกฝนด้านการบริหารจัดการความเสี่ยงและทดสอบย้อนหลังและสาธิตกลยุทธ์การซื้อขายอย่างละเอียดก่อนที่จะนำไปใช้ในตลาดจริง
การวิเคราะห์กระแสของคำสั่งซื้อขาย
การวิเคราะห์กระแสคำสั่งซื้อขายของสถาบัน (Institutional order flow analysis) เกี่ยวข้องกับการติดตามการเคลื่อนไหวของปริมาณและราคาของเทรดเดอร์สถาบันขนาดใหญ่ เช่น ธนาคาร กองทุนเฮดจ์ฟันด์ และสถาบันการเงินอื่น ๆ เพื่อระบุแนวโน้มและการกลับตัวของตลาดที่อาจเกิดขึ้น
กลยุทธ์ประเภทนี้อาศัยเครื่องมืออย่างมาก เช่น ตัวบ่งชี้ Volume Profile , ซอฟต์แวร์วิเคราะห์กระแสคำสั่งซื้อขาย และข้อมูลความลึกของตลาด เพื่อติดตามกิจกรรมการซื้อและการขายของเทรดเดอร์สถาบัน เพื่อคาดการณ์ว่าตลาดจะขยับไปในทิศทางไหน คุณจะต้องวิเคราะห์การกระจายของปริมาณการซื้อขายในระดับราคาที่แตกต่างกัน และระบุพื้นที่ที่มีแรงกดดันในการซื้อหรือขายอย่างมีนัยสำคัญ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถใช้ตัวบ่งชี้ Horizontal Volume ได้ เพราะมันเป็นหนึ่งในตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของเทรดเดอร์หลายราย
นอกจากนี้ คุณสามารถให้ความสนใจกับพฤติกรรมของราคาในระดับแนวรับและแนวต้านที่สำคัญ รวมถึงเหตุการณ์ข่าวสำคัญและการประกาศทางเศรษฐกิจที่อาจส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมการซื้อขายของสถาบันได้ด้วยเช่นกัน
การวิเคราะห์กระแสคำสั่งซื้อขายของสถาบันจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลมากขึ้นและใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวของตลาดที่ขับเคลื่อนโดยผู้เล่นสถาบันรายใหญ่ อย่างไรก็ดี ฉันไม่สามารถพูดได้หรอกว่าแค่นั้นน่ะเพียงพอแล้ว กลยุทธ์นี้จำเป็นต้องมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของตลาด และอาจจำเป็นต้องเข้าถึงเครื่องมือและแหล่งข้อมูลเฉพาะทางด้วย สุดท้ายนี้ เช่นเดียวกับกลยุทธ์การซื้อขายอื่น ๆ อย่าละเลยการบริหารความเสี่ยงและการทดสอบอย่างละเอียดเชียวล่ะ
สรุป
การวิเคราะห์ราคาด้วยกราฟเปล่า ๆ เป็นทักษะที่เทรดเดอร์ทุกคนควรฝึกให้เชี่ยวชาญ ข้อดีที่ไม่อาจปฏิเสธได้ก็คือ เมื่อคุณวิเคราะห์กราฟราคาเปล่า ๆ คุณก็จะไม่ถูกรบกวนจากข้อมูลที่ไม่จำเป็นในขณะที่โฟกัสไปที่สิ่งที่สำคัญจริง ๆ
ลองใช้การวิเคราะห์กราฟ Forex ประเภทนี้ในการเทรดประจำวันของคุณ ทันทีที่คุณค้นพบวิธีที่เข้ามือของคุณ คุณจะสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในกระบวนการซื้อขาย มันจะเป็นไปอย่างราบรื่นขึ้น ทำให้คุณควบคุมสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้ ผลลัพธ์ก็คือ คุณจะเทรด Forex ได้เก่งขึ้น
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการวิเคราะห์กราฟ Forex โปรดเข้าไปดูที่บทเรียนของ FBS
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
คุณจะวิเคราะห์กราฟราคาได้อย่างไร?
กราฟราคาประกอบด้วยสองแกน ได้แก่ เวลาและราคา ซึ่งสามารถอ่านเวลาบนกราฟราคาได้จากแกน x (จากซ้ายไปขวา) โดยแท่งเทียนแต่ละแท่งหรือบาร์แต่ละบาร์นั้นแสดงถึงหน่วยเวลา ส่วนราคาของตราสารจะอ่านได้จากแกน y (บนลงล่าง) โดยแต่ละแท่งเทียนหรือแต่ละบาร์แสดงถึงราคาเปิด ราคาสูงสุด ราคาต่ำสุด และราคาปิด เมื่อคุณอ่านกราฟ Forex คุณจะติดตามการเคลื่อนไหวของราคา เช่น ราคาเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรในช่วงเวลาต่าง ๆ
การวิเคราะห์กราฟ Forex เป็นทักษะพื้นฐานสำหรับการเทรด Forex เมื่อคุณเข้าสู่ตลาด คุณต้องเรียนรู้วิธีการวิเคราะห์กราฟ Forex เพื่ออ่านพฤติกรรมของราคา สังเกตเห็นแนวโน้ม และทำความเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของตลาด
คุณจะวิเคราะห์พฤติกรรมของราคาได้อย่างไร?
เมื่อคุณวิเคราะห์พฤติกรรมของราคา ปัจจัยหลักสองประการที่ต้องพิจารณาคือทิศทางของราคาและทิศทางของปริมาณการซื้อขาย หากราคาของสินทรัพย์เพิ่มขึ้นในขณะที่ปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น นี่บ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นของตลาดที่แข็งแกร่ง เนื่องจากนักลงทุนจำนวนมากเข้าซื้อในราคาที่สูงขึ้น ในทางกลับกัน หากปริมาณการซื้อขายต่ำ พฤติกรรมของราคาก็อาจไม่น่าเชื่อถือมากนัก เนื่องจากมีนักลงทุนจำนวนน้อยที่เลือกลงทุนในระดับราคาปัจจุบัน
คุณจะเลือกใช้กราฟราคาอย่างไร?
การวิเคราะห์กราฟ Forex ประกอบด้วยรูปแบบกราฟราคาที่พบบ่อยที่สุดสี่รูปแบบ ได้แก่ กราฟเส้น กราฟแท่ง กราฟแท่งเทียน และกราฟแบบจุด กราฟแต่ละประเภทสามารถใช้เพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะหรือถือว่า "สามารถอ่านได้" ไม่มากก็น้อย เนื่องจากเทรดเดอร์แต่ละรายมีความชอบที่แตกต่างกันเกี่ยวกับกราฟที่ทำให้พวกเขาสบายใจที่จะใช้
คุณจะอ่านกราฟสกุลเงินได้อย่างไร?
ในคู่สกุลเงิน Forex สกุลเงินแรกที่แสดงคือสกุลเงินหลัก และสกุลเงินที่สองคือสกุลเงินอ้างอิง ตัวอย่างเช่น ในคู่ EURUSD ยูโรเป็นสกุลเงินหลัก และดอลลาร์สหรัฐเป็นสกุลเงินอ้างอิง
อัตราแลกเปลี่ยนระหว่างสองสกุลเงินจะแสดงเป็นจำนวนสกุลเงินอ้างอิงที่จำเป็นต้องใช้สำหรับการซื้อหนึ่งหน่วยของสกุลเงินหลัก ดังนั้น หากคู่ EURUSD ซื้อขายกันที่ 1.20 หมายความว่า 1 ยูโรเท่ากับ 1.20 ดอลลาร์สหรัฐ